Breaking

Thursday, November 2, 2017

การปลูกต้นหอม

การปลูกต้นหอม

การปลูกต้นหอม

การปลูกต้นหอม


ต้นหอม ผักกินใบที่นิยมนำมาประกอบอาหารแทบทุกเมนู ปลูกง่าย โตเร็ว ไม่ต้องดูแลยุ่งยาก เป็นผักสวนครัวที่อยู่คู่กับคนไทยมายาวนาน เพราะเป็นพืชที่ปลูกง่าย โตเร็ว ดูแลไม่ยาก ปลูกไว้แป๊บ ๆ ก็เก็บกินได้แล้ว ส่วนประโยชน์ในการทำอาหารนั้นก็สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นข้าวผัด ไข่เจียว หรือจะซอยโรยหน้าซุปหรือไข่ตุ๋นก็อร่อยใช่ย่อย นอกจากนี้แล้ว ต้นหอมยังมีน้ำมันหอมระเหย ช่วยบรรเทาอาการหวัด มีสารฟลาโวนอยด์ต้านมะเร็งอีกด้วย

สำหรับใครที่สนใจอยากจะเริ่มปลูกไว้บริโภคเองในครอบครัวปลูกหอมแบ่งสำหรับขาย จะมีวิธีการปลูกอย่างไรให้ได้ผล เราได้เรียบเรียงข้อมูลการปลูกหอมแบ่งหรือต้นหอมมาให้ศึกษาและลองทำ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นธุกิจที่สร้างรายได้ในอนาคตก็เป็นไปได้



การเพาะปลูกต้นหอมนั้นทำได้ 2 วิธี คือ ใช้หัวปลูก หรือใช้เมล็ดหว่าน แต่การใช้เมล็ดจะประหยัดกว่า ใช้เวลาในการปลูก 45 วัน แต่ที่นิยมปลูกจะใช้หัวปลูกเพราะระยะเวลาการเก็บเกี่ยวจะใช้เวลาประมาณ 30-32 วันต้องรดน้ำทั้งเช้าเย็น จนเมื่อต้นเริ่มมีใบยื่นยาว ลดน้ำลงเหลือเพียงวันละครั้ง เคล็ดลับปลูกต้นหอมให้งามอยู่ที่การคลุมดินให้คงความชื้นไว้ แต่ระบายน้ำได้ดี โดยการนำเอาฟางแห้ง หญ้าแห้ง เปลือกถั่วลิสง หรือแกลบดิน คลุมหน้าดินไว้ ต้นหอมโตเต็มที่สามารถนำมาใช้งานได้ สูงประมาณ 1 ฟุตกว่าๆ ก็ถอนมาได้เลยค่ะ ส่วนแมลงศัตรูตัวร้ายของต้นหอมคือ เพลี้ยไฟ ใช้แลนเนท 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ 10 ลิตร แล้วฉีดพ่น 7-10 วันครั้ง เพื่อป้องกัน หากเกิดเพลี้ยไฟ ก็ฉีดพ่น 3-4 วันครั้ง

หอมมี 3 สายพันธุ์ คือ
1.พันธุ์ที่มาจากนครพนม
2.พันธุ์ที่มาจากเชียงใหม่ (หอมเหนือ)
3.พันธุ์ที่มาอินโดนิเชีย

ลักษณะทั้ง 3 สายพันธุ์นี้จะชอบฤดูการปลูกที่แตกต่างกัน
พันธุ์ที่มาจากนครพนมจะมีความทนทานต่อหน้าฝน
พันธุ์ที่มาจากเชียงใหม่ --จะให้ผลผลิตมากในช่วงหน้าหนาว
พันธุ์ ที่มาอินโดนิเชีย--พันธุ์นี้จะพิเศษกว่าเพื่อนทนได้ทาน ต้นใหญ่ใบหนาทนต่อโรค และสภาพอากาศ แต่ข้อเสียกลิ่นค่อนข้างแรงกว่า 2 สายพันธุ์ที่กว่ามา



ขั้นตอนการปลูกหอม
เริ่มต้นจากการเตรียมดิน
ก่อนที่เราจะเริ่มปลูกเราควรเตรียมดิน อย่างน้อย 1 อาทิตย์ โดยไถพรวนดิน ภายในอาทิตย์นั้นๆ 2 ครั้ง โดย 3 วันไถครั้งหนึ่ง เมื่อเตรียมดินเสร็จแล้วเราก็เริ่มลงมือปลูกเลย

สิ่งที่ต้องเตรียม
1.พันธุ์หอมแบ่ง
2.ฟางข้าว หรือ แกลบ
3.อุปกรณ์ทำแปลงผัก เช่น จอบ คราด

เมื่อเราเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างแล้วเรามาลงมือเลย
1.เริ่มจากการไถแปลงขนาดกว้าง 1.5 เมตร ความยาวแล้วแต่ความสะดวกในการรดน้ำ
2.เมื่อไถเสร็จเราก็เริ่มเขี่ยแปลงโดยใช้คราด ให้ดินสม่ำเสมอกัน
3.เมื่อแปลงเรียบดีแล้ว ก็ลงมือ ปักพันธ์ หอมลงในดินเลย ก่อนที่เราจะปักลงเราควรแกะกรีบหอมออกก่อน ระยะห่างระหว่างหัวประมาณ 3x3 ซม
4.เมื่อปักพันธ์หอมเสร็จเราก็นำฟางข้าว หรือ ว่า แกลบ มาคุมแปลง เพื่อดูซับความชื่น ในแปลงผัก
5. หลังจากนั้นเราก็รดน้ำ เช้า-เย็น
6. เมื่อผักเริ่มงอกและลำต้นยาว ประมาณ 3 ซม ระยะนี้จะใช้เวลา 10 วัน ให้เราเริ่มใส่ปุ๋ยครั้งที่ 1 ปุ๋ย ชีวภาพ หรือ เคมีก็ได้ ถ้าเป็นเคมี แนะนำ สูตร 16-8-8 และก็ฉีดฮอร์โมน หรือ EM
7. ควรดูแลวัชพืช ช่วงนี้ด้วย
8.เมื่อผ่านไป 20 วัน เราก็เริ่มใส่ปุ๋ย ครั้งที่ 2 และก็ทำเหมือนกันกับ ขั้นตอนที่ 6

การเก็บเกี่ยวและจำหน่าย
ต้นหอมสามารถเก็บและออกจำหน่ายได้ดีจะต้องมีอายุ 40-45 วันหลังการเพาะปลูก เพราะผักจะโตเต็มที่ ใบสีเขียวสด

โรคและศัตรู
1.โรคโครนเน่า เกิดจากช่วงที่ฝนตกติดต่อกัน หลายๆ วัน แล้วดินมันแชะ
2. หนอน กินใบ หนอนจะมีสองแบบ คือ กินในหลอด และกินนอกหลอด ให้สังเกต ว่าหอมเรามีอาการเหียวเฉา หรือ ไม ถ้ามีอาการ แบบนั้น ก็ให้ไป แกะดูในใบหอม เริ่ม หากเจอ หนอนในหลอด ก็ฉีดฉีดยา ฆ่ามันเลย

http://nontun.blogspot.com/

No comments:

Post a Comment