การปลูกกะเพรา
กะเพราเป็นพืชล้มลุกที่มีอายุข้ามปี ลำต้นเป็นทรงพุ่ม สูงประมาณ 70 - 80 เซนติเมตร ลำต้นและใบมีขนเล็กน้อย ใบมีสีเขียวและสีม่วง ใบมีกลิ่นหอม กะเพราเป็นพืชที่ใช้ใบประกอบปรุง แต่งอาหาร เพื่อดับกลิ่นคาว และทำให้อาหารมีรสชาดและกลิ่นหอม น่ารับประทาน
การเพาะเมล็ดสำหรับทำกล้า
1. ทำแปลงเพาะขนาดความกว้าง 1 เมตร ความยาวแล้วแต่แปลง
2. ย่อยดินให้ละเอียด คลุกเคล้าปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก
3. หว่านเมล็ดให้ทั่วแปลง
4. หลังเพาะประมาณ 7 - 10 วัน เมล็ดเริ่มงอก
5. ดูแลรักษาต้นกล้าประมาณ 25 - 30 วัน ก็ย้ายต้นกล้าไปปลูกในแปลงได้
6. ใช้จอบขุดดินลึกประมาณ 15 - 20 ซม. หรือ 1 หน้าจอบ
7. ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงแปลงกว้าง 1 เมตร ความยาวแล้วแต่ขนาดแปลง
8. ขุดหลุมปลูกขนาดลึก 1/2 หน้าจอบ
9. ใช้ระยะห่างระหว่างต้น 30 ซม. ระหว่างแถว 60 ซม.
10. นำต้นกล้าลงปลูกในหลุมแล้วรดน้ำตาม
11. การใส่ปุ๋ย เมื่อต้นกะเพราอายุ 10 - 15 วัน
12. ใช้ปุ๋ยยูเรียหรือแอมโมเนี่ยมซัลเฟต 1- 2 ช้อนชา ต่อน้ำ10 ลิตร รดทุก 5 - 7 วัน
13. เมื่อต้นกะเพราอายุ 25 - 30 วัน ใส่ปุ๋ย 15-15-15 อัตรา 1 ช้อนชาต่อต้น ให้ทุก 20 - 25 วัน โดยโรยห่างโคนต้น 1 - 2 นิ้ว หรือจะใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์น้อยลงได้
14. ให้น้ำอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอทุกวัน
15. การกำจัดวัชพืช ควรกำจัดวัชพืชทุกครั้งที่มีการให้ปุ๋ย และเมื่อมีวัชพืชรบกวน
16. หลังปลูกประมาณ 30 - 35 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ โดยใช้มือหรือกรรไกร ตัดกิ่งที่มียอดอ่อนไปบริโภค
17. ถ้าต้นกะเพราออกดอกควรหมั่นตัดแต่งออกทิ้ง เพื่อให้กะเพรามีทรงพุ่มที่แข็งแรงและมีอายุยืนยาว
กะเพราจัดเป็นพืชสมุนไพรได้อย่างเต็มตัวชนิดหนึ่ง เพราะมีสรรพคุณรักษาโรคได้หลายชนิด ทั้งตำราไทยและต่างประเทศ ก็ระบุความเป็นสมุนไพรรักษาโรคได้ของกะเพราเอาไว้หลายด้านเช่น ตำราสมุนไพรไทย บรรยายสรรพคุณด้านยาของสมุนไพรเอาไว้ว่า รสฉุน ร้อน ขับลมแก้ซาง แก้ท้องขึ้น ปวดท้องบำรุงธาตุ แก้จุดเสียดในท้อง ช่วยย่อยอาหาร
ในตำราสมุนไพรไทย ได้จัดแบ่งสมุนไพรออกเป็นจำพวกต่างๆ รวมทั้งพิกัดอีกมากมาย ในจุลพิกัดซึ่งมีสมุนไพรกลุ่มละ 2 ชนิดนั้น ระบุถึงกลุ่มที่เรียกว่า ”กะเพราทั้ง 2 ” หมายถึง ส่วนราก ต้นใบ ดอก และ ผลของกะเพรา ซึ่งใช้ด้วยกันทั้งหมดในตำรานั้น ในตำรับยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณซึ่งมีอยู่ 6 ตำรับนั้น มีอยู่ตำรับหนึ่งชื่อว่า”ยาประสะกะเพรา” หมายถึง มีกะเพราเป็นสรรพคุณหลักของกะเพรานั่นเอง
นอกจากนี้กะเพรายังเป็นส่วนประกอบของยาอีกมากมาย เช่น ยารักษาตานขโมยสำหรับเด็ก ยาแก้ทรางเด็ก และยากินให้มีน้ำนมสำหรับมารดาเป็นต้น ในต่างประเทศมีการใช้กะเพราเป็นยารักษาโรคอย่างกว้างขวางยิ่งกว่าประเทศไทย เสียอีก โดยเฉพาะในอินเดียถือว่ากะเพราใช้รักษาโรคได้ทุกโรคเลยทีเดียวกะเพราเป็นพืช ที่ปลูกง่ายมากชนิดหนึ่งเพื่อแต่โรยเมล็ดลงบนพื้นดินแล้วรดน้ำพอชุ่มชื้น กะเพราก็จะงอกงามได้ดี
No comments:
Post a Comment