วิธีปลูกสะระแหน่
วิธีปลูกสะระแหน่
สะระแหน่ เป็นพืชที่ใช้ปรุงอาหารประเภทยำ ลาบ พล่า ต้มยำ อาหารที่มีรสจัด และช่วยปรุงแต่งกลิ่นให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังใช้ทำยา และ สกัดนํ้ามันหอมระเหยที่ใช้ในวงการอุตสาหกรรมอีกหลายอย่าง
ตามประวัติศาสตร์เล่าขานกันมาว่า ผู้ที่นำสะระแหน่เข้ามาปลูกในประเทศไทยนั้นเป็นชาวอิตาลี่ นำเข้ามาในสมัยรัชกาลของพระนั่งเกล้าฯ ต่อมาสะระแหน่ ก็เป็นที่นิยมบริโภคในหมู่คนชาวไทยตราบจนทุกวันนี้
สะระแหน่เป็นพืชประเภทไม้เลื้อยคลุมดินใบมีลักษณะป้อม ๆ สีเขียว ขอบใบย่น ชอบดินร่วนซุย ปลูกง่าย งอกงามได้รวดเร็ว ยิ่งถ้าผู้ปลูกดูแลรักษาดี ๆ ก็จะยิ่งงามและเก็บใบได้เร็วขึ้น
การปลูกสะระแหน่นั้นจะใช้วิธีปักชำลงไปในแปลงปลูกเลย หรือจะชำ ในแปลงเพาะก่อนแล้วจึงย้ายมาปลูกก็ได้เช่นกัน แต่ข้อสำคัญคือต้องเตรีอมดินให้ร่วนซุยดีเสียก่อน เพราะสะระแหน่ชอบดินประเภทนี้
การเตรียมดิน
ถ้าจะปลูกสะระแหน่ในภาชนะเช่น กระถางลังไม้ หรือจะปลูกเป็นสวน หย่อมประดับบ้าน ปลูกในแปลงประดับสวนเล็ก ๆ ที่ใช้เนื้อที่ปลูกไม่มากนักควรใช้ดินผสมที่มีส่วนผสมของ ดิน 2 ส่วน ปุ๋ยหมัก 1 ส่วน ทราย 1 ส่วน และปูนขาวเล็กน้อย ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันดีแล้วนำไปใช้ปลูกได้
แต่ถ้ามีเนื้อที่พอสมควรที่จะปลูกเป็นแปลง ๆ ไว้ข้างบ้านได้ก็ควรเตรียม ดินโดยขุดดินขึ้นมาตากแดดไว้ประมาณ 7 วัน จนดินร่วนแตก แล้วเอาปุ๋ยคอกปุ๋ยหมัก โรยทับลงไป โรยปูนขาวทับบาง ๆ อีกขั้นหนึ่ง ทิ้งไว้ 3 วัน จึงกลับดิน พรวนดิน และคลุกเคล้าดินให้ร่วนเข้ากันดี ถ้าดินเป็นดินเหนียวมากควรเติมทรายลงไปผสม ด้วยสักเล็กน้อยพอให้ดินร่วนซุยขึ้น
การปลูก
เลือกกิ่งสะระแหน่ที่ไม่แก่หรืออ่อนเกินไป ปักจิ้มลงไปในแปลงเพาะชำ หรือแปลงปลูก ปักให้กิ่งเอนทาบกับดิน รดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าให้ถึงกับแฉะแล้วโรยแกลบทับกลบดินเพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้หน้าดิน และเมื่อแกลบผุก็จะกลายเป็นปุ๋ยต่อไป ประมาณ 4-5 วันก็จะแตกใบ แตกยอดเลื้อยคลุมดิน
ต้นสะระแหน่ชอบดินร่วนซุยที่ระบายนํ้าได้ดีและต้องการแสงสว่าง แต่ ไม่ต้องการแดดที่ร้อนจัดจนเกินไป จะปลูกในที่ร่มรำไรหรือในที่แดดก็ได้
การดูแลรักษา
เมื่อสะระแหน่เจริญเติบโตจนเก็บยอดไปได้แล้ว ควรเติมปุ๋ยคอกหรือ ปุ๋ยหมักให้บ้าง ไม่ควรใส่ปุ๋ยเคมี เพราะถ้าใส่มากเกินไปจะทำให้ต้นสะระแหน่เหี่ยวตาย การพรวนดินให้ต้นสะระแหน่ควรทำด้วยความระมัดระวังเพราะสะระแหน่เป็นพืชที่มีระบบรากตื้นที่แผ่กระจายอยู่ตามหน้าดิน
การเก็บเกี่ยวผลผลิตส่งขาย ภายหลังการปลูก 45 วัน สามารถเก็บเกี่ยวผลลิตได้ โดยใช้กรรไกรตัด หลังจากตัดเสร็จทำการใส่ปุ๋ยรดน้ำ หลังจากนั้นอีกประมาณ 20 วัน สามารถตัดใหม่ได้อีก ซึ่งสวนสะระแหน่ของคุณอุทัยวรรณ 2 ไร่ ตัดขายได้รอบละ 300-400 กิโลกรัม จำหน่ายที่ตลาดปฐมพงษ์ ราคากิโลกรัมละ 40 บาท นอกจากนี้ปริมาณการเก็บเกี่ยวผลผลิตแต่ละรอบไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉลี่ยแล้วไม่ต่ำกว่าจำนวนที่บอกไว้ข้างต้น โดยเฉพาะช่วงที่สะระแหน่มีราคาดีสุดในเดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายน ราคาสูงสุดอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาท และช่วงราคาต่ำสุดเป็นช่วงหน้าหนาวกิโลกรัมละ 20 บาท
การปลูกสะระแหน่เพื่อรับประทานเอง
การปลูกเพื่อรับประทานภายในครัวเรือน จะปลูกในแปลงหลังบ้านหรือปลูกในกระถางก่ออิฐ กระถางพลาสติก หรือกระถางประดิษฐ์
การปลูกในแปลงนั้น มักนิยมเตรียมแปลงขนาดเล็ก พอให้เก็บยอดได้สะดวก ด้วยการขุดพรวนดิน และกำจัดวัชพืช ซึ่งอาจตากดินหรือไม่ต้องตากดินเลย หลังจากนั้น จะตีดินให้แตก และร่วนซุย พร้อมกับทำร่องหรือยกแปลงให้สูงเล็กน้อย ก่อนนำต้นพันธุ์มากปลูก โดยระยะปลูกประมาณ 10-15 ซม. หรืออาจห่างกว่านี้
ส่วนการปลูกแบบอื่นที่นิยม ได้แก่ การปลูกในอิฐบล๊อก หรือ กระถางประดิษฐ์ และกระถางพลาสติก ซึ่งมีพื้นที่จำกัด และต้องใช้ดินที่ผสมกับแกลบดำหรือแกลบดิบ หรือผสมกับวัสดุอื่น เช่น ขุยมะพร้าว แต่ที่ขาดไม่ได้ คือ ปุ๋ยคอก โดยอัตราส่วนดิน ปุ๋ยคอก และวัสดุอื่นที่ผสม 1:2:1
สำหรับจำนวนต้นที่ปลูกในกระถางนั้น ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ ซึ่งควรมีระยะห่างของต้นประมาณ 5-10 ซม.
No comments:
Post a Comment